พรบ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ.2535 กำหนดให้รถทุกประเภทต้องจัดให้มีการประกันภัยเพื่อให้ความคุ้มครองและให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนทุกคน ซึ่งได้รับความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัย เพราะเหตุประสบภัยจากรถซึ่งจะต้องเป็นการรับผิดตามกฎหมายและมีการชดใช้ค่าเสียหาย ซึ่งอาจจะเป็นจำนวนเงินที่ไม่แน่นอน ความเสี่ยงภัยเหล่านี้จะลดภาระและความเดือดร้อนทางการเงินให้กับผู้เอาประกัน(ผู้ซื้อประกัน)ได้ ด้วยการทำประกันภัย
ประกันภัยรถยนต์มี 2 ประเภท คือ
- ประกันภัยภาคสมัครใจ เป็นการประกันภัยรถยนต์ซึ่งเป็นการตกลงกันระหว่างผู้ซื้อหรือผู้เอาประกัน กับผู้ขายหรือบริษัทประกันภัย โดยเป็นการเลือกซื้อความคุ้มครองประกันภัยตามความต้องการที่เหมาะสมของผู้เอาประกันภัย ปัจจุบันมีบริษัทที่ขายประกันภัยรถยนต์มากมาย ดังนั้นผู้บริโภคควรศึกษาข้อมูลเพื่อทำการตัดสินใจ
การเลือกซื้อประกันภัย เลือกอย่างไร
- เลือกบริษัทที่มีฐานะทางการเงินมั่นคง คุณคงไม่อยากเจอหัวเสียกับปัญหาที่เกิดขึ้นเพราะบริษัทประกันปิดตัวล้มไปเฉยๆ ทั้งๆที่เราตั้งใจฝากความปลอดภัยไว้ที่เค้า ดังนั้นก่อนซื้อประกันต้องเช็คเครดิตกันสักนิดนะคะ
- เลือกนายหน้าประกันที่เป็นผู้ที่ได้รับอนุญาติจากนายทะเบียนเท่านั้น การจะเช็คว่านายหน้าคนนั้นไม่ใช่นายหน้าจอมปลอมสามารถทำได้ง่ายๆ โดยการเช็คในเวปไซต์ www.oic.or.th หรือที่ คปภ.
- เมื่อจ่ายค่าเบี้ยประกันภัยแล้วต้องขอรับใบเสร็จ หรือเอกสารที่แสดงการรับเงินทุกครั้ง เพื่อเป็นหลักฐาน และผู้เอาประกันจะต้องได้รับหลักฐานแสดงการประกันภัยตาม พรบ. คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ เพื่อใช้สำหรับการจดทะเบียนใหม่ หรือขอเสียภาษีประจำปีต่อนายทะเบียนขนส่ง ปกติบริษัทประกันภัยจะต้องส่งกรมธรรม์ประกันภัยให้ภายใน 15 วัน หลังจากชำระเบี้ประกัน
- ต้องศึกษาเงื่อนไขกรมธรรน์ให้ละเอียดก่อนการตัดสินใจซื้อทุกครั้ง
แค่หลักการง่ายๆที่ต้องปฎิบัติก่อนการซื้อประกัน แค่นี้ท่านก็สามารถได้ประกันภัยที่ไม่หลอกลวง ไม่ต้องหัวเสียทีหลังแล้วค่ะ และแล้วเรื่องประกันภัยรถยนต์ และ พรบ.รถยนต์ก็เป็นเรื่องง่ายๆแล้วค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น